ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะกับการขับขี่บนสภาพถนนปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด 100% จะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะกับการขับขี่บนสภาพถนนปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด 100% จะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานแบบ Full-Time All Wheel Control เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว ระบบส่งกำลัง Torsen (Torque Sensitive Type) จะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า 40 % และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง และล้อหน้า 50 % ล้อหลัง 50% เมื่อถนนเปียกลื่น เพื่อประสิทธิภาพในการเกาะถนนและความปลอดภัย
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา สำหรับใช้ในเส้นทางที่ทุรกันดาร แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้บนเส้นทางที่มีผิวแบบลื่นไหล (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้บนทางแห้ง)
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วน ล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลัง (Transfer Gear Ratio) จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่ทุรกันดารมากๆ และมีโคลน หรือเส้นทางแบบมีเนินสลับและมีความลาดชันมากๆ (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.)
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายได้มากกว่า ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง สามารถปรับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระ รองรับการใช้งานทุกไลฟ์สไตล์